Bugatti
เปิดประวัติ Bugatti ผู้ก่อตั้งแบรนด์ คือ Ettore Bugatt (เอตโตเร บูกัตติ) มีชื่อเต็มว่า ETTORE ARCO ISIDORO BUGATTI (เอตตอเร อาร์โก บูกัตติ) เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน ปี ค.ศ. 1881 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นลูกชายคนโตในครอบครัวของจิตรกร บิดามีนามว่า CARLO BUGATTI (คาร์โล บูกัตติ) เป็นศิลปิน ดีไซเนอร์ นักออกแบบเครื่องประดับสไตล์อาร์ตนูโวคนสำคัญ และผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังระดับประเทศ พี่ชายของเขา เรมแบรนดท์ ก็เป็นประติมากรที่มีความสามารถ
แต่ทว่า Ettore ไม่ได้หลงไหลในเรื่องของศิลปะหรือสนใจในเรื่องของประติมากรรมสักเท่าไหร่ สิ่งที่เขาใฝ่ฝันคือ การสร้างรถยนต์เป็นของตัวเอง เมื่ออายุได้ 17 ปี พ่อของเขาก็ให้การสนับสนุนเต็มที่ โดยการส่งเขาไปฝึกงานกับบริษัทผลิตจักรยานสามล้อชื่อดังอย่าง PRINETTE & STUCCI บริษัทนี้ผลิตจักรยานสามล้อและสี่ล้อ หรือที่เราเรียกว่ารถยนต์ในปัจจุบัน
Ettore Bugatti
ผลงานความสำเร็จของเขา ก็ได้เตะตาต้องใจเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์ DE DIETRICH MOTOR นามว่า BARON DE DIETRICH โดย Baron ได้ทำการเซ็นสัญญากับ Ettore ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 20 ปี ในตำแหน่งดีไซเนอร์และวิศวกรของบริษัท เป็นที่มาของ “TYPE 5” หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “HERMES” ซึ่งมาพร้อมกับขุมพลังขนาด 12.9 ลิตร ตามมาด้วยรถยนต์รหัส TYPE 6 และ 7 ตามลำดับ ก่อนที่จะโดนซื้อตัวโดยบริษัท DEUTZ MOTOR COMPANY ใน ปี ค.ศ. 1907
ในปี ค.ศ. 1909 Ettore ตัดสินใจเปิดบริษัทเป็นของตัวเองเป็นครั้งแรก ในนาม AUTOMOBILES ETTORE BUGATTI ภายใต้แบรนด์ BUGATTI (บูกัตติ) Ettore ได้ทำการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ ภายใต้รหัส TYPE 10 โดยใช้ต้นแบบโครงสร้างรถจากบริษัทเดิม DEUTZ แต่ทำการโมดิฟายด์ใหม่ทั้งหมด โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่เมืองมอลไซม์ (Molsheim) ของเยอรมัน ในภูมิภาคแอลเซส (Alsace) ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศฝรั่งเศส
Ettore เข้าสู่ช่วงที่มืดมนที่สุดในชีวิต จากการเสียชีวิตของลูกชายคนโต Jean Bugatti เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1939 ในขณะที่ทำการทดสอบรถแข่งรุ่น Type 57 tank-bodied racer ซึ่งตัวเขาได้ออกแบบเองและเพิ่งแข่งชนะได้รางวัล 24 Hours of Le Mans ในปีนั้น อุบัติเหตุเกิดขึ้นจากจักรยานที่ขี่มาตัดหน้าระหว่างรถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว ทำให้ Jean หักหลบอย่างกระทันหันและพุ่งชนต้นไม้เสียชีวิตทันทีในวัย 30 ปี ซึ่งการเสียชีวิตของเขาในครั้งนั้น นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของ Bugatti ก่อนที่จะก้าวสู่สงครามโลกครั้งที่ 2
ในปี ค.ศ. 1936 Ettore ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่น TYPE 57SC ATLANTIC ซึ่งใช้ตัวถังแบบ ALUMINIUM WELDING แต่ด้วยเทคโนโลยีที่มีจำกัดในสมัยนั้น ในเรื่องของการดัดอะลูมินัม ทีมวิศวกรของแบรนด์จึงนำตัวถังจำนวน 4 ชิ้นมาประกอบขึ้นเป็นเชสซีของรถรุ่นนี้ และนั่นทำให้มันกลายเป็น Signature และจุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ไปโดยปริยาย
TYPE 57SC ATLANTIC
การพัฒนารถยนต์ซูเปอร์ชาร์จขนาด 375 ซีซี ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ของ Bugatti ได้ถูกระงับลงกลางคัน เนื่องจาก Ettore Bugatti ได้เสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1947 หลังจากเขาเสียชีวิต สถานภาพทางธุรกิจของบริษัทก็ถดถอยลงอีก โดยแบรนด์ Bugatti ได้ทำการจัดแสดงในฐานะธุรกิจของตัวเอง ที่งาน Paris Motor Show ในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1952 หลังจากประสบปัญหาด้านการเงินและสภาพคล่องมาเป็นเวลานาน จึงยุติบริษัทดั้งเดิม ภายใต้อาณาจักรของ Ettore Bugatti ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1952 เป็นต้นมา
ในช่วงกลางทศวรรษ 1950 Roland Bugatti ลูกชายอีกคนของ Ettore Bugatti ได้พยายามที่จะฟื้นฟูสถานะของบริษัทให้กลับยืนขึ้นใหม่ ด้วยรถแข่ง TYPE 251 เครื่องยนต์วางกลาง โดยได้รับการออกแบบและช่วยเหลือจาก Gioacchino Colombo วิศวกรชาวอิตาลี แต่สุดท้ายแล้ว รถยนต์รุ่นนี้ไม่สามารถทำงานได้ดังที่คาดหวัง ความพยายามของบริษัท ในการผลิตรถยนต์ก็หยุดชะงักอีกครั้ง
ในปี ค.ศ. 1968 Roland จำใจต้องขายบริษัทให้กับบริษัท HISPANO-SUIZA อดีตผู้ผลิตรถยนต์ที่ผันตัวมาเป็นซัพพลายเออร์เครื่องบินเชื้อสายสเปน และมีบางส่วนที่ขายต่อให้กับ SNECMA บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินรายใหญ่ของฝรั่งเศส แต่ภายหลังทั้ง HISPANO-SUIZA และ SNECMA นั้นได้รวมตัวกัน แล้วได้ตั้งชื่อบริษัทว่า MESSIER-BUGATTI ในปี ค.ศ. 1977
ในปี ค.ศ. 2016 Bugatti ได้สร้างรถยนต์บูกัตติ ไครอน (Bugatti Chiron) รถสปอร์ตสองที่นั่งที่มีเครื่องยนต์วางกลาง เปิดตัวครั้งแรกในงานเจนิวา มอเตอร์ โชว์ (Geneva Motor Show) เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ปี ค.ศ. 2016 ซึ่งได้รับการพัฒนามาจากบูกัตติ เวย์รอน (Bugatti Veyron) นับว่าบูกัตติ ไครอน (Bugatti Chiron) เป็นรถซูเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลก โดยมีความเร็วสูงสุด 467 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวโครงสร้างของรถทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทำให้รถมีน้ำหนักเบา มาพร้อมกับเครื่องยนต์ W ขนาด 8.0 ลิตร 16 สูบ และ เทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังถึง 1,500 แรงม้า
Bugatti Chiron
และในปี 2021 Bugatti ตอกย้ำการเป็นจ้าวแห่งความเร็ว ด้วยการเปิดตัว Bugatti Chiron รุ่นอัพเกรด จำกัดจำน วนการผลิตเพียง 60 คัน ภายใต้ชื่อรุ่น Bugatti Chiron Pur Sport มาพร้อมกับขุมพลัง เบนซิน W16 ความจุ 8.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว 1,500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 163 กก.-ม. ทว่าบูกัตติจะทำการเพิ่มรอบเครื่องยนต์ให้อีก +200 รอบ/นาที ผู้ขับสามารถลากรอบไปจนสุดได้ที่ 6,900 รอบ/นาที ในขณะที่ชุดเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 จังหวะ จะมีการปรับอัตราทดให้ชิดขึ้น 15% เพื่อเพิ่มความจัดจ้าน