top of page

MG

จุดเริ่มต้นของ MG แบรนด์ยนตรกรรมสัญชาติอังกฤษ เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1924 โดยนาย William Morris ที่มีความหลงใหลในยานยนต์ และมีความเชื่อว่า รถยนต์แห่งสมรรถนะไม่ได้มีแค่ในสนามแข่งเท่านั้น แต่ต้องสัมผัสและโลดแล่นบนท้องถนนได้ จึงได้เริ่มต้นจำหน่ายรถยนต์โดยก่อตั้งบริษัท Morris Motors Limited สร้างสรรค์รถยนต์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มคนที่สนใจในรถยนต์สปอร์ตจิตวิญญาณสนามแข่ง ชื่อ MG ย่อมาจาก "Morris Garage" คือ ชื่อของร้านอู่ซ่อมรถของ William Morris ตั้งอยู่ในเมือง Oxford สหราชอาณาจักร

images (2).jpg
นาย William Morris ผู้ก่อตั้ง MG


โดยรถยนต์รุ่นแรกที่สร้างขึ้น คือ Morris Oxford ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนั้น ต่อมา William Morris ได้เริ่มนำรถยนต์ตระกูลมอร์ริสเดิม มาปรับแต่งให้เป็นรถยนต์สปอร์ตที่มีลักษณะเฉพาะของเอ็มจีมากขึ้น คือ การผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความสนุกสนานในการขับขี่ไว้ด้วยกัน และรุ่นแรกที่ผลิตขึ้นในนาม MG คือ MG 14/28 Super Sports ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ มีความจุที่ 1,954 ซีซี รถยนต์รุ่นนี้มีสมรรถนะความเร็วสูง รูปลักษณ์ดูทันสมัยสวยงาม เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ในยุคดังกล่าว และได้รับความนิยมในสหราชอาณาจักรและต่างประเทศด้วย นับเป็นรถยนต์สปอร์ตที่ได้รับการยอมรับและน่าทึ่งของยุคก่อนเข้าสู่ช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

ต่อมาในปี ค.ศ. 1927 ได้ทำการย้ายสายการผลิตของรถยนต์มายังโรงงาน Abingdon ที่เมือง Oxford และเริ่มผลิตรถยนต์ในสภาพอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้เปิดตัวรถรุ่น MG Midget มอเตอร์ 14 แรงม้า ความเร็วสูงถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในอังกฤษอย่างรวดเร็ว ได้พัฒนาและผลิตรถยนต์หลากหลายรุ่น สร้างชื่อเสียงให้วงการนักแข่งมากมาย และหนึ่งในนั้นคือรุ่น K3 Magnette ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1933 ได้เข้าแข่งขัน Le Mans 24 hours และคว้ารางวัลแห่งชัยชนะ The Index of Performance มาครอง ต่อมาบริษัทได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ออกแบบรถยนต์หลากหลายรุ่น และคว้ารางวัลมามากมาย

Morris Motors Limited ดำเนินธุรกิจมาจนถึงปี ค.ศ. 1952 ภายหลังได้รวมกับบริษัท Austin Motor Company สร้างบริษัทใหม่ในชื่อ British Motor Corporation (BMC) และ เอ็มจียังคงผลิตรถยนต์ที่เน้นความสปอร์ตและความสนุกสนานในการขับขี่ และรุ่นที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุดนั่นคือ MGA เป็นรถยนต์ที่ออกแบบอย่างทันสมัย แข็งแรงด้วยโครงสร้างเหล็กทั้งคัน ได้แรงบันดาลใจจากการแข่ง Le Mans 24 hours และสามารถทำยอดขายไปกว่า 100,000 คัน

ต่อมาในปี ค.ศ. 1968 บริษัท BMC ได้รวมกับ Leyland Motors เพื่อสร้างบริษัทใหม่ British Leyland Motor Corporation ในช่วงยุคนี้ได้ผลิตรถยนต์รุ่นต่าง ๆ โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ MGB GT V8 ใช้เครื่องยนต์ V8 Rover 3,258 CC เครื่องยนต์โลหะอัลลอย น้ำหนักเบา ประหยัดน้ำมัน และ MG Midget (MGC) สายพันธุ์สปอร์ต 2 ที่นั่ง ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้


 

80793fc612872ac2ac6661c35a36db0c.jpg

ในปี ค.ศ. 1986 เอ็มจีกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Rover Group ที่อยู่ในเครือของบริษัท British Aerospace ในช่วงนี้ยังคงผลิตรถยนต์สปอร์ตที่ได้รับความนิยมเช่น MGF ตำแหน่งเครื่องยนต์ไว้ตรงกลางตัวรถ ภายหลัง Rover Group ได้ประกาศล้มละลายในปี ค.ศ. 2000 ทำให้เอ็มจีและหน่วยธุรกิจของ Rover ถูกซื้อโดย Phoenix Consortium ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุน และรถที่สร้างชื่อเสียงในยุคนี้ ได้แก่ MG ZR รถสปอร์ต Hatchback 5 ประตู

ต่อมาบริษัทถูกขายทอดตลาดให้กับบริษัทจีนที่ชื่อ Nanjing Automobile Group ได้ซื้อสิทธิ์ในการผลิตในปี ค.ศ. 2005 ตั้งบริษัท NAC MG UK ขึ้นใหม่ ไม่กี่ปีต่อมา ก็ถูกบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Shanghai Automotive Industry Corporation (SAIC) เข้าซื้อกิจการในปี ค.ศ. 2007 และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น MG Motor UK ในปี ค.ศ. 2009 และจากการซื้อกิจการในครั้งนี้ สร้างการเปลี่ยนแปลงหน้าใหม่ให้กับเอ็มจีอีกครั้ง ด้วยการพัฒนารถรุ่น MG6 ในปี ค.ศ. 2011 และนี่คือการกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในรอบ 16 ปี!

และต่อมาในเดือนกันยายน ค.ศ. 2016 เอ็มจีได้ย้ายฐานการผลิตจากโรงงานที่ Longbridge ประเทศอังกฤษ ไปผลิตที่จีนทั้งหมด

bottom of page