Volkswagen
ว่ากันด้วยที่มาของคำว่า Volkswagen ซึ่งมีความหมายค่อนข้างตรงตัวทีเดียว ในภาษาเยอรมัน “(n) Volk” หมายถึง “ประชาชน” และ “(m) Wagen” หมายถึง รถยนต์ เมื่อนำมาเขียนติดกันจะได้ความหมายว่า “รถของประชาชน”
ในช่วงปี ค.ศ. 1933–1939 ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นโดย อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) ผู้นำของประเทศเยอรมณีในตอนนั้นกับ แฟร์ดีนันด์ พอร์เชร์ (Ferdinand Porsche) วิศวกรรถยนต์ผู้โด่งดัง ร่วมมือผลิตรถยนต์ VW นี้ขึ้นมา ซึ่งรถจะต้องตอบโจทย์ที่ว่าต้องเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะดี และราคาถูกพอๆกับรถจักรยานยนต์
โฟล์คสวาเกนโด่งดัง และทำให้เศรษฐกิจของเยอรมณีในยุคนั้นเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นที่รู้จักในเวลาไม่นาน รุ่นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ Volkswagen Beetle ภาษาเยอรมันเรียกกันว่า Kaefer หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “รถเต่า” นั่นเอง
ปีค.ศ. 1939 – 1945
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II) โรงงานผลิตโฟล์คสวาเกนกลายเป็นฐานที่ตั้งสำหรับการผลิตเครื่องยนต์พาหนะทางทหาร หนึ่งในนั้นรวมถึงยานหานะซึ่งเคลื่อนที่ได้ทั้งบนบก และในน้ำอีกด้วย ในปีค.ศ. 1943 มีนักโทษ และเชลยมากกว่า 12,000 คนทำงาน ซ่อมแซมเครื่องบินรบ และสร้างเครื่องบินรบ V-1 Rocket เพื่อทิ้งระเบิดที่ประเทศอังกฤษที่โรงงานแห่งนี้
หลังจากที่โฟล์คสวาเกนแผ่ขยายชื่อเสียงไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในยุโรปด้วยกันเอง หรืออเมริกา ช่วงเริ่มต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 บริษัทรถยนต์ขาใหญ่นี้ก็เริ่มตีตลาดรถหรูซึ่งเป็นที่รู้จักในปัจจุบันเช่น ออดี้ (Audi), บูกัตติ (Bugatti), หรือแม้แต่ลัมโบร์กีนี่ (Lamborghini) และรถสปอร์ตอย่าง SUV (Sport-utility vehicle) มากขึ้น
ในปัจจุบันรถจากบริษัทโฟล์คสวาเกนยังคงเป็นที่นิยมของผู้เล่นรถ และสะสมรถยนต์ ไม่ว่าจะรถมือหนึ่ง หรือมือสอง โดยเฉพาะในยุโรป และอเมริกา ในเอเชียนั้นก็พอมีให้เห็นอยู่บ้าง ด้วยตัวเครื่องยนต์ และสมรรถนะที่คงทนของรถยนต์ยี่ห้อนี้ ถือว่าเป็นรถยนต์ยี่ห้ออมตะอันดับต้นๆ ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้สนใจที่ต้องครอบครองรถยนต์ยี่ห้อดัง หากได้เป็นเจ้าของแล้วคงดูเท่ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับผู้หลงใหลในรถยนต์ของ Volkswagen ก็สามารถแวะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Volkswagen ได้ที่เมือง Wolfsburg ที่ประเทศเยอรมณี ท่านสามารถสัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ และยี่ห้อรถแต่ละรุ่นของแบรนด์นี้ถึงถิ่นอย่างจุใจแน่นอน